
โทนเนอร์ มีไว้ทำอะไร หลายคนอาจมองว่าโทนเนอร์เป็นเพียงน้ำใสๆ ที่ช่วยเช็ดทำความสะอาดผิว ลดความมัน และขจัดสิ่งตกค้าง แต่แท้จริงแล้ว โทนเนอร์มีบทบาทมากกว่านั้น ไม่เพียงช่วยทำความสะอาด แต่ยังปรับสมดุลผิว เติมความชุ่มชื้น และเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง ในขั้นตอนต่อไป
ไม่ว่าจะมีผิวมัน ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือปัญหาสิวและริ้วรอย การเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจโทนเนอร์ในทุกแง่มุม ตั้งแต่ประเภท ส่วนผสมสำคัญ วิธีใช้ ไปจนถึงการเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน
โทนเนอร์ มีไว้ทำอะไร โทนเนอร์มีไว้เพื่อปรับสมดุลผิว หลังจากการล้างหน้า เพื่อช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิว และเตรียมผิว ให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป แหล่งที่มาของโทนเนอร์ สามารถย้อนไปถึงยุคโบราณ ที่มีการใช้น้ำสมุนไพร และน้ำดอกไม้ เช่นน้ำกุหลาบ และ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล เพื่อบำรุงผิว
ต่อมาในศตวรรษที่ 20 อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ได้พัฒนาโทนเนอร์ในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น โดยมีส่วนผสมเฉพาะ สำหรับการบำรุงผิว ในลักษณะต่างๆ [1]
โทนเนอร์สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ตามวัตถุประสงค์ และคุณสมบัติของส่วนผสมที่ใช้ ได้แก่
การเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ขึ้นอยู่กับส่วนผสมหลัก ซึ่งมีผลต่อการทำงานของผลิตภัณฑ์ เช่น
การเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และปัญหาผิวของแต่ละคน หากต้องการลดสิว และควบคุมความมัน Some By Mi และ Plantnery เป็นตัวเลือกที่ดี ส่วน Pixi Glow Tonic เหมาะกับการผลัดเซลล์ผิว
ที่มา: 10 โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี [2]
โทนเนอร์เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่ควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ ของผิวแต่ละประเภท ดังนี้
ที่มา: โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับผิว [3]
โทนเนอร์ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง และเสริมประสิทธิภาพ ของสกินแคร์ตัวอื่นๆ การเลือกใช้โทนเนอร์ ให้เหมาะสมกับสภาพผิว และความต้องการเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ผิวแข็งแรง สดใส และมีสุขภาพดีในระยะยาว