แพนทีนอล ช่วยอะไร ทำไมถึงเป็นสารสำคัญในสกินแคร์?

แพนทีนอล ช่วยอะไร

แพนทีนอล ช่วยอะไร แพนทีนอลหรือโปรวิตามินบี5 เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ได้รับความนิยม ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เส้นผม และสุขภาพโดยรวม เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้น ฟื้นฟู และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิว

ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับประโยชน์ของแพนทีนอล ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผิว ผม เล็บ และการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมความงาม และเวชสำอาง พร้อมทั้งเจาะลึกถึงผลข้างเคียงที่ควรรู้ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของแพนทีนอลได้อย่างมั่นใจ

แพนทีนอลหรือโปรวิตามินบี5 คืออะไร?

แพนทีนอลหรือที่รู้จักกันในชื่อโปรวิตามินบี5 (Provitamin B5) เป็นสารที่สามารถเปลี่ยนเป็นกรดแพนโทเทนิก (Pantothenic Acid) ได้เมื่อซึมเข้าสู่ผิว ซึ่งเป็นวิตามินที่มีบทบาทสำคัญ ต่อการเสริมสร้างและฟื้นฟูเซลล์ผิว มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวหนัง

แพนทีนอล ช่วยอะไร เกี่ยวกับผิว?

  • แพนทีนอล ช่วยอะไร ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น โดยทำหน้าที่เป็นสารกลุ่ม Humectant ที่ช่วยดูดซับกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ลดการสูญเสียน้ำ และทำให้ผิวดูอิ่มน้ำมากขึ้น
  • ปลอบประโลมผิว มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ และระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ช่วยบรรเทาอาการผิวแดง คัน หรือแสบ
  • ฟื้นฟูผิวที่เสียหาย กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดรอยแดงจากการระคายเคือง แผลเป็น และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
  • เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ช่วยเสริมความแข็งแรง ให้กับชั้นผิว ทำให้ผิวทนต่อมลภาวะ ลดการเกิดปัญหาผิวหนัง
  • ลดอาการคันและแสบผิว เหมาะสำหรับผิวแห้ง แตก หรือถูกทำร้ายจากปัจจัยภายนอก เช่นลมหนาว แสงแดด หรือสารเคมี

ที่มา: Panthenol in Skincare [1]

 

แพนทีนอลกับผิวแพ้ง่าย

แพนทีนอลเป็นหนึ่งในสารที่อ่อนโยน และปลอดภัย สำหรับผิวแพ้ง่าย ช่วยลดอาการระคายเคือง และอักเสบ จึงมักถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ สำหรับผิวที่ไวต่อสารเคมี เช่นครีมบำรุงผิวเด็ก โลชั่นหลังโกนหนวด และครีมที่ใช้หลังการทำเลเซอร์ หรือผลัดเซลล์ผิว โดยผลิตภัณฑ์ที่มีแพนทีนอล เป็นส่วนผสมหลัก ได้แก่

  • เซรั่มให้ความชุ่มชื้น ผิวแพ้ง่าย เซรั่มบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น
  • ครีม และมอยส์เจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวแห้ง
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลังออกแดด
  • ครีมสำหรับรักษารอยแดง หรือรอยสิว
  • โลชั่น และบาล์ม ที่ช่วยปลอบประโลมผิว

ประโยชน์ของแพนทีนอล นอกจากบำรุงผิว

แพนทีนอล ช่วยอะไร

ประโยชน์ของแพนทีนอล นอกจากการบำรุงผิว นอกจากจะเป็นสารให้ความชุ่มชื้น และฟื้นฟูผิวแล้ว แพนทีนอลยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ ของร่างกาย ดังนี้

  • บำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม ทำให้ผมดูเงางามและมีน้ำหนัก ลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม โดยช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ช่วยลดอาการแห้งคันของหนังศีรษะ ป้องกันรังแค ช่วยซ่อมแซมผมที่เสีย จากการทำสี หรือโดนความร้อน
  • บำรุงเล็บ เสริมความแข็งแรงของเล็บ ป้องกันการเปราะหัก และฉีกขาด เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเล็บ และจมูกเล็บ ลดอาการแห้งแตก
  • ช่วยสมานแผล มีคุณสมบัติช่วยเร่งการฟื้นฟู และซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวที่เสียหาย ลดอาการอักเสบ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
  • ลดอาการแสบ และคันจากการระคายเคือง ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หลังการโกนหนวด เพื่อลดอาการระคายเคือง และช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้จากแสงแดด และสารเคมี
  • ใช้ในอุตสาหกรรมยาและเวชสำอาง เป็นส่วนผสมสำคัญ ในครีมบรรเทาผื่นผ้าอ้อมสำหรับเด็ก พบในยาทาแก้ผื่นคัน และครีมสำหรับผิวหนังอักเสบ

D-panthenol คนท้องใช้ได้ไหม?

D-Panthenol หรือที่รู้จักกันในชื่อโปรวิตามินบี5 (Pro-vitamin B5) เป็นสารที่มีคุณสมบัติ ในการให้ความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย สำหรับการใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากไม่มีหลักฐาน ที่บ่งชี้ว่าสารนี้ ก่อให้เกิดอันตราย ต่อทารกในครรภ์

อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงสารบางชนิด ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระหว่างตั้งครรภ์ เช่นวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Retinoids) และพาราเบน (Parabens) เนื่องจากอาจมีผลกระทบ ต่อทารกในครรภ์

ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีโปรวิตามินบี5 ในระหว่างตั้งครรภ์ ถือว่าปลอดภัย แต่ควรตรวจสอบส่วนผสมอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์ และปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้เสมอ [2]

ผลข้างเคียงของแพนทีนอลคืออะไร?

โดยทั่วไป แพนทีนอลถือว่าปลอดภัย สำหรับผิวและร่างกาย และพบได้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และเส้นผม อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจมี ผลข้างเคียง ที่เกิดขึ้นได้ เช่น

  • การระคายเคืองผิวหนัง อาจทำให้เกิดอาการ ผื่นแดง คัน หรือแสบผิว ในบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อาการนี้มักเกิดจากการใช้ในปริมาณสูง หรือในผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของสารกระตุ้นอื่นๆ
  • อาการแพ้ (Allergic Reaction) พบได้น้อยมาก แต่บางคนอาจมี อาการแพ้ เช่นบวม คัน หรือผื่นขึ้น หากเกิดอาการแพ้ ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ และปรึกษาแพทย์
  • สิวอุดตัน (Comedogenic Potential) แม้ว่าจะเป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นดี แต่ในบางกรณีอาจก่อให้เกิด สิวอุดตัน ได้หากใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นสูง และไม่เหมาะกับสภาพผิวมัน
  • การใช้ในปริมาณสูงเกินไป แพนทีนอลในปริมาณสูง (เช่นมากกว่า 5% ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว) อาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เหนียวเหนอะหนะ และอาจก่อให้เกิดการอุดตัน ของรูขุมขน

สรุป แพนทีนอลสารมหัศจรรย์ฟื้นฟูผิวและผม

แพนทีนอลเป็นสารที่มีคุณประโยชน์หลากหลายต่อผิว เส้นผม และเล็บ โดยเฉพาะในด้านการเพิ่มความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหาย เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย และสามารถใช้ได้ในหลายรูปแบบของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ควรคำนึงถึงปริมาณ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ด้วย

Panthenol ควรใช้กี่เปอร์เซ็นต์?

แพนทีนอลเป็นสารที่มีประโยชน์ ในการบำรุงผิวและเส้นผม โดยมีอัตราการใช้ที่แนะนำแตกต่างกันไป ตามประเภทของผลิตภัณฑ์ โดยอัตราการใช้แพนทีนอลที่แนะนำ มีดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: 0.5% ถึง 10% โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ในช่วง 1% ถึง 3% เนื่องจากหากใช้เกิน 5% อาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีความเหนอะหนะ
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม: 0.1% ถึง 0.5%

การเลือกใช้อัตราส่วนที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูงสุด และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ [3]

วิตามินB5 ใช้กับเรตินอลได้ไหม?

แพนทีนอลสามารถใช้ร่วมกับเรตินอล (Retinol) ได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากช่วยลดการระคายเคือง ที่อาจเกิดจากการใช้เรตินอล อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดความแห้งกร้าน และป้องกันการลอกของผิว โดยประโยชน์ของการใช้วิตามินB5 ร่วมกับเรตินอล มีดังนี้

  • ช่วยลดการระคายเคือง ลดอาการแสบ แดง และแห้งลอกจากเรตินอล
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยรักษาสมดุลน้ำในผิว ลดปัญหาผิวแห้ง
  • เสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ทนต่อการใช้เรตินอลได้ดีขึ้น
  • อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้เรตินอลร่วมกับสารบางชนิด เช่นเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) เนื่องจากอาจลดประสิทธิภาพของทั้งสองสาร และเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคือง
Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง