เซนเทลล่า เอเชียติก้า สมุนไพรใบบัวบก เพื่อผิวแพ้ง่าย

เซนเทลล่า เอเชียติก้า

เซนเทลล่า เอเชียติก้า หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ใบบัวบก” เป็นพืชสมุนไพร ที่มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนาน ในแวดวงการแพทย์แผนโบราณของเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโรคทางร่างกาย หรือการฟื้นฟูสุขภาพผิว หลายคนอาจคุ้นเคยกับสรรพคุณของใบบัวบก ในการช่วยลดรอยช้ำจากการกระแทก

แต่ความจริงแล้วพืชชนิดนี้ มีคุณประโยชน์มากกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการสกินแคร์ ที่ให้ความสำคัญกับผิวแพ้ง่าย และการลดการอักเสบของผิวหนัง

ประวัติ และแหล่งกำเนิดของเซนเทลล่าเอเชียติก้า

เซนเทลล่า เอเชียติก้า

เซนเทลล่าเอเชียติก้าเป็นพืชล้มลุก ที่พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงบางส่วนของแอฟริกา และออสเตรเลีย มีการนำมาใช้ในตำรายาสมุนไพรของจีน อินเดีย และไทยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี

ในแพทย์แผนอินเดียหรืออายุรเวท (Ayurveda) พืชชนิดนี้ถูกเรียกว่า “Gotu Kola” และถูกใช้เพื่อบำรุงสมอง เสริมสร้างระบบไหลเวียนโลหิต และฟื้นฟูบาดแผล

ส่วนประกอบสำคัญในเซนเทลล่าเอเชียติก้า

เซนเทลล่าเอเชียติก้ามีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวหนัง ได้แก่

  • ไตรเตอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) สารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว และช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น
  • มาเดคาสโซไซด์ (Madecassoside) ช่วยลดการอักเสบ และเพิ่มความแข็งแรง ให้กับเกราะป้องกันผิว
  • เอเชียติโคไซด์ (Asiaticoside) มีคุณสมบัติช่วยสมานแผล และลดรอยแผลเป็น
  • ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากความเสียหาย ที่เกิดจากมลภาวะ

ประโยชน์ของเซนเทลล่าเอเชียติก้าในด้านสุขภาพ

  • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต มีส่วนช่วยลดอาการเส้นเลือดขอด และเสริมสร้างการไหลเวียนของโลหิต
  • เสริมสร้างการทำงานของสมอง มีการศึกษาพบว่าเซนเทลล่าเอเชียติก้า สามารถช่วยเพิ่มความจำ และลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
  • ช่วยลดความเครียด และอาการวิตกกังวล มีฤทธิ์ช่วยผ่อนคลาย และบำรุงระบบประสาท
  • ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย เพื่อต่อสู้กับโรคต่างๆ
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด มีศักยภาพในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยเบาหวาน

สกินแคร์ เซนเทลล่า เอเชียติก้า ช่วยอะไร?

ในวงการเครื่องสำอาง และสกินแคร์ เซนเทลล่าเอเชียติก้าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีปัญหาผิว ที่เกิดจากการอักเสบ โดยมีประโยชน์ต่อผิวในหลายๆด้าน ดังนี้

  • เซนเทลล่าเอเชียติก้า ช่วยลดรอยแดงและการอักเสบ สารมาเดคาสโซไซด์ในเซนเทลล่าเอเชียติก้า มีคุณสมบัติลดการอักเสบ ทำให้รอยแดงจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
    เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ผิวแพ้ง่ายมักมีปัญหาภูมิคุ้มกันผิวที่อ่อนแอ เซนเทลล่าเอเชียติก้าช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ให้แข็งแรงขึ้น ลดการสูญเสียน้ำ และเพิ่มความชุ่มชื้น
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญ ที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และยืดหยุ่น การใช้สกินแคร์ที่มีสารสกัดจากเซนเทลล่าเอเชียติก้า ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต่งตึง และเรียบเนียน
  • ลดรอยแผลเป็น และจุดด่างดำ เอเชียติโคไซด์มีบทบาทในการสมานแผล และช่วยให้รอยแผลเป็นดูจางลง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยสิว หรือรอยแผล จากการระคายเคืองผิว

ที่มา: Centella-asiatica in cosmetology [1]

 

วิธีใช้เซนเทลล่าเอเชียติก้าในชีวิตประจำวัน

  • ผลิตภัณฑ์เซรั่ม หรือครีมบำรุงผิว เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากเซนเทลล่าเอเชียติก้า ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดการอักเสบของผิว เช่นในรูปแบบเซรั่ม ครีมหรือ เจลล้างหน้า ผิวแพ้ง่าย
  • ดื่มชาสมุนไพรเซนเทลล่าเอเชียติก้า ช่วยเสริมสร้างสุขภาพภายใน และลดความเครียด
  • ใช้เป็นเจลแต้มสิว ช่วยให้สิวอักเสบลดลงเร็วขึ้น และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  • มาส์กหน้าด้วยสารสกัดจากเซนเทลล่าเอเชียติก้า เพิ่มความชุ่มชื้น และลดรอยแดง

ข้อควรระวังในการใช้เซนเทลล่าเอเชียติก้า

แม้ว่าเซนเทลล่าเอเชียติก้า จะมีคุณสมบัติที่ดีต่อผิว และสุขภาพ แต่ก็มีข้อควรระวัง ที่ควรพิจารณา ดังนี้

  • การแพ้และการระคายเคือง ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรทดสอบผลิตภัณฑ์ที่มีเซนเทลล่าเอเชียติก้า บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้งานจริง หากเกิดอาการแพ้ เช่นผื่นแดง คัน หรือระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที
  • การใช้ร่วมกับสารออกฤทธิ์แรง ไม่ควรใช้ร่วมกับกรดผลัดเซลล์ผิว (AHA, BHA, PHA) ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคือง หากต้องการใช้ร่วมกัน ควรใช้ในช่วงเวลาต่างกัน

สรุป เซนเทลล่าเอเชียติก้าดูแลผิวแพ้ง่าย

เซนเทลล่าเอเชียติก้าเป็นพืชสมุนไพร ที่มีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพ และการดูแลผิว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายและอักเสบ สารสกัดจากพืชชนิดนี้ ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมสกินแคร์อย่างแพร่หลาย

Centella asiatica ควรใช้คู่กับอะไร?

การใช้เซนเทลล่าเอเชียติก้า ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวได้อย่างมาก โดยส่วนผสมที่แนะนำให้ใช้ร่วมกับเซนเทลล่าเอเชียติก้า มีดังนี้

  • ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid): ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ และยืดหยุ่นมากขึ้น การผสานระหว่างเซนเทลล่าเอเชียติก้า กับไฮยาลูโรนิก แอซิด ช่วยปลอบประโลมผิว และเติมเต็มความชุ่มชื้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เซราไมด์ (Ceramide): เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำ และรักษาความชุ่มชื้น การใช้ร่วมกับเซนเทลล่าเอเชียติก้า ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้ง และเสียหาย
  • ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide): หรือวิตามินบี 3 ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดรอยแดงและรอยดำ การผสานกับเซนเทลล่าเอเชียติก้าช่วยลดการอักเสบ และปรับปรุงสภาพผิว
  • เรตินอล (Retinol): สารที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย การใช้เซนเทลล่า เอเชียติก้าร่วมกับเรตินอลสามารถช่วยลดการระคายเคือง ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เรตินอล อย่างไรก็ตาม ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน

ที่มา: Centella-Asiatica คืออะไร? พร้อมเปิดคัมภีร์วิธีใช้ส่วนผสมมาแรงตัวนี้ [2]

 

ใบบัวบกรักษาฝ้าได้ไหม?

ใบบัวบก เซนเทลล่าเอเชียติก้า เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลายในการดูแลผิวพรรณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาฝ้า เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและจุดด่างดำจางลง วิธีการใช้ใบบัวบกสด ในการมาสก์หน้ารักษาฝ้ามีดังนี้

  • นำใบบัวบกสด มาล้างให้สะอาด
  • บดหรือปั่นให้ละเอียด
  • นำมาพอกบนใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
    ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

การทำเช่นนี้เป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยให้ฝ้าจางลง และผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น [3]

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง