
เซนเทลล่า เอเชียติก้า หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ใบบัวบก” เป็นพืชสมุนไพร ที่มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนาน ในแวดวงการแพทย์แผนโบราณของเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโรคทางร่างกาย หรือการฟื้นฟูสุขภาพผิว หลายคนอาจคุ้นเคยกับสรรพคุณของใบบัวบก ในการช่วยลดรอยช้ำจากการกระแทก
แต่ความจริงแล้วพืชชนิดนี้ มีคุณประโยชน์มากกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการสกินแคร์ ที่ให้ความสำคัญกับผิวแพ้ง่าย และการลดการอักเสบของผิวหนัง
เซนเทลล่าเอเชียติก้าเป็นพืชล้มลุก ที่พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงบางส่วนของแอฟริกา และออสเตรเลีย มีการนำมาใช้ในตำรายาสมุนไพรของจีน อินเดีย และไทยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี
ในแพทย์แผนอินเดียหรืออายุรเวท (Ayurveda) พืชชนิดนี้ถูกเรียกว่า “Gotu Kola” และถูกใช้เพื่อบำรุงสมอง เสริมสร้างระบบไหลเวียนโลหิต และฟื้นฟูบาดแผล
เซนเทลล่าเอเชียติก้ามีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวหนัง ได้แก่
ในวงการเครื่องสำอาง และสกินแคร์ เซนเทลล่าเอเชียติก้าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติ ที่ช่วยปลอบประโลมผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีปัญหาผิว ที่เกิดจากการอักเสบ โดยมีประโยชน์ต่อผิวในหลายๆด้าน ดังนี้
ที่มา: Centella-asiatica in cosmetology [1]
แม้ว่าเซนเทลล่าเอเชียติก้า จะมีคุณสมบัติที่ดีต่อผิว และสุขภาพ แต่ก็มีข้อควรระวัง ที่ควรพิจารณา ดังนี้
เซนเทลล่าเอเชียติก้าเป็นพืชสมุนไพร ที่มีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพ และการดูแลผิว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายและอักเสบ สารสกัดจากพืชชนิดนี้ ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมสกินแคร์อย่างแพร่หลาย
การใช้เซนเทลล่าเอเชียติก้า ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวได้อย่างมาก โดยส่วนผสมที่แนะนำให้ใช้ร่วมกับเซนเทลล่าเอเชียติก้า มีดังนี้
ที่มา: Centella-Asiatica คืออะไร? พร้อมเปิดคัมภีร์วิธีใช้ส่วนผสมมาแรงตัวนี้ [2]
ใบบัวบก เซนเทลล่าเอเชียติก้า เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลายในการดูแลผิวพรรณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาฝ้า เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและจุดด่างดำจางลง วิธีการใช้ใบบัวบกสด ในการมาสก์หน้ารักษาฝ้ามีดังนี้
การทำเช่นนี้เป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยให้ฝ้าจางลง และผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น [3]