เชียบัตเตอร์ ใช้ยังไง ให้ถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับบำรุงผิว

เชียบัตเตอร์ ใช้ยังไง

เชียบัตเตอร์ ใช้ยังไง เชียบัตเตอร์เป็นหนึ่งในส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ หรือเห็นเป็นส่วนประกอบ ในครีมบำรุงผิว ลิปบาล์ม หรือแม้แต่แชมพู และครีมนวดผม แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรใช้อย่างไร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เชียบัตเตอร์สามารถใช้ได้หลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการของผิว และปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข ก่อนที่จะเจาะลึกถึงการใช้เชียบัตเตอร์อย่างถูกต้อง มาทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติ ที่ทำให้เชียบัตเตอร์เป็นที่นิยมกันก่อน

เชียบัตเตอร์จาก Vitellaria paradoxa คืออะไร?

เชียบัตเตอร์ ใช้ยังไง

เชียบัตเตอร์คือไขมันที่สกัดจากเมล็ดของต้น Vitellaria paradoxa ซึ่งพบมากในแถบแอฟริกาตะวันตก เชียบัตเตอร์มีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น เป็นครีมสีขาว ถึงเหลืองอ่อน มีคุณสมบัติเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ธรรมชาติ ให้ความชุ่มชื้นสูง อุดมไปด้วยสารอาหารบำรุงผิว โดยส่วนประกอบสำคัญของเชียบัตเตอร์ มีดังนี้

  • กรดไขมันจำเป็น เช่นกรดโอเลอิก (Oleic Acid), กรดสเตียริก (Stearic Acid), กรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) และกรดปาลมิติก (Palmitic Acid) ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และแข็งแรง
  • วิตามิน A และ E ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟู และปกป้องผิวจากมลภาวะ
  • สารต้านการอักเสบธรรมชาติ เช่นกรดซินนามิก (Cinnamic Acid) ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง และอักเสบของผิว
  • ไตรเทอร์พีน (Triterpenes) ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น

ประโยชน์ของเชียบัตเตอร์ต่อผิวพรรณ

  • ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เชียบัตเตอร์เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ธรรมชาติที่ดีเยี่ยม เพราะอุดมไปด้วยกรดไขมัน เช่นกรดโอเลอิก กรดสเตียริก และกรดไลโนเลอิก ซึ่งช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น และทำให้ผิวนุ่มนวล
  • ลดอาการระคายเคือง และอักเสบของผิว เชียบัตเตอร์มีคุณสมบัติต้านการอักเสบสูงเช่นเดียวกับ เซนเทลล่า เอเชียติก้า จึงช่วยลดรอยแดง ผื่น และการระคายเคืองของผิว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย หรือเป็นโรคผิวหนังเช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) และโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ เชียบัตเตอร์ประกอบไปด้วยวิตามิน A และ E ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ปกป้องผิวจากมลภาวะ และฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว
  • ช่วยสมานแผล และลดรอยแผลเป็น เนื่องจากเชียบัตเตอร์มีกรดไขมัน และวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้สามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น รอยแตกลาย และรอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ป้องกันรังสี UV ตามธรรมชาติ แม้ว่าเชียบัตเตอร์ จะไม่สามารถใช้แทนครีมกันแดดได้โดยตรง แต่ก็มีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ในระดับหนึ่ง โดยมีค่า SPF ตามธรรมชาติอยู่ที่ประมาณ 3-6

ทำไมเชียบัตเตอร์จึงเหมาะกับผิวแพ้ง่าย?

เชียบัตเตอร์เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมในการดูแลผิวแพ้ง่าย เนื่องจากมีคุณสมบัติอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ได้เป็นอย่างดี โดยเหตุผลที่เชียบัตเตอร์เหมาะกับผิวแพ้ง่าย มีดังนี้

  • ปราศจากสารเคมี ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เชียบัตเตอร์ไม่มีพาราเบน สารกันเสีย หรือสารแต่งกลิ่นที่อาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือซัลเฟต ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้งและอ่อนแอ
  • มีฤทธิ์ต้านการอักเสบตามธรรมชาติ อุดมไปด้วยสารต้านการอักเสบ เช่นกรดซินนามิก (Cinnamic-Acid) ซึ่งช่วยลดรอยแดง ผื่น และอาการแพ้ของผิว ช่วยปลอบประโลมผิวที่เกิดการระคายเคือง และผิวที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น
  • ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เชียบัตเตอร์ช่วยเสริม Skin Barrier หรือเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวสามารถปกป้องตัวเองจากมลภาวะ แบคทีเรีย และสารระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม มีกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและสมดุล
  • เติมความชุ่มชื้น โดยไม่อุดตันรูขุมขน เชียบัตเตอร์มีคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้นสูง โดยไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน (Comedogenic Rating อยู่ที่ 0-2 ซึ่งถือว่าต่ำ) ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งและลอกเป็นขุย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการผิวแห้งมาก หรือแพ้ง่ายจากอากาศเย็น และแห้ง
  • อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เชียบัตเตอร์มีวิตามินเอ และอี ซึ่งช่วยปกป้องผิวจาก มลภาวะและความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ลดโอกาสการเกิดอาการอักเสบ และช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น

เชียบัตเตอร์ ใช้ยังไง ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์

เชียบัตเตอร์ ใช้ยังไง ใช้ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เช่น

  • ครีมบำรุงผิวหน้าและกาย เชียบัตเตอร์เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีเยี่ยม ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้งแตก และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะและแสงแดด ครีมบำรุงผิวที่มีเชียบัตเตอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย เพราะช่วยปลอบประโลม และลดอาการระคายเคืองของผิว
  • ลิปบาล์ม เนื่องจากเชียบัตเตอร์มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นสูง และช่วยปกป้องริมฝีปากจากการแห้งแตก ลิปบาล์มที่มีเชียบัตเตอร์เป็นส่วนผสมสำคัญ จะช่วยทำให้ริมฝีปากเนียนนุ่มขึ้น และยังช่วยซ่อมแซมริมฝีปากที่เสียหาย จากสภาพอากาศที่แห้ง หรือหนาวเย็น
  • โลชั่นและบอดี้บัตเตอร์ โลชั่นและบอดี้บัตเตอร์ที่มีเชียบัตเตอร์ จะให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มขึ้นและลดความแห้งกร้าน เหมาะสำหรับใช้หลังอาบน้ำเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว หรือสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งมาก
  • แชมพูและครีมนวดผม เชียบัตเตอร์ไม่เพียงแต่ดีต่อผิว แต่ยังมีประโยชน์ต่อเส้นผมด้วย แชมพูและครีมนวดที่มีเชียบัตเตอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม ลดอาการแห้งแตกปลาย และช่วยให้เส้นผมแข็งแรงเงางาม นอกจากนี้ ยังช่วยลดอาการคันหนังศีรษะ และลดการเกิดรังแคได้อีกด้วย
  • สบู่และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สบู่ที่มีเชียบัตเตอร์ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังการใช้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย เพราะเชียบัตเตอร์ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น หลังล้างหน้า และอาบน้ำ

Shea Butter อุดตันไหม?

เชียบัตเตอร์ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวมัน เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นบนผิว โดยไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น และไม่อุดตันรูขุมขน

นอกจากนี้ เชียบัตเตอร์ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และมีกรดไขมันที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้น

ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์สามารถช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการอุดตัน และยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม [1]

ข้อควรระวังในการใช้เชียบัตเตอร์

  • อาการแพ้ และระคายเคือง แม้ว่าเชียบัตเตอร์จะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่บางคนอาจมีอาการแพ้ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้ถั่วหรือน้ำมันจากพืช ควรทำการทดสอบอาการแพ้ (Patch Test) โดยทาเชียบัตเตอร์ในปริมาณเล็กน้อยที่ท้องแขน และรอดูอาการภายใน 24 ชั่วโมง
  • อุดตันรูขุมขน (Comedogenic Scale ระดับต่ำ-ปานกลาง) เชียบัตเตอร์มีค่าคอมิโดจีนิก (Comedogenic Rating) ประมาณ 0-2 ซึ่งหมายความว่าไม่ค่อยอุดตันรูขุมขน แต่สำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
  • การเลือกผลิตภัณฑ์เชียบัตเตอร์ ควรเลือกเชียบัตเตอร์แบบ Unrefined Shea Butter (เชียบัตเตอร์แบบดิบ) ซึ่งไม่ผ่านกระบวนการทางเคมี เพราะยังคงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน หลีกเลี่ยงเชียบัตเตอร์ที่มีสารกันเสีย น้ำหอม หรือสารเคมีอื่นๆ ที่อาจทำให้ผิวแพ้ง่ายเกิดอาการระคายเคือง
  • อายุการใช้งานและการเก็บรักษา เชียบัตเตอร์มีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี หากเก็บในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ร้อนจัด หรือมีแสงแดดส่องโดยตรง เพราะอาจทำให้เนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป และสูญเสียคุณสมบัติสำคัญ

สรุป เชียบัตเตอร์ช่วยฟื้นฟูผิว เหมาะกับผิวแพ้ง่าย

เชียบัตเตอร์เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่ให้ประโยชน์มากมายต่อผิวพรรณ โดยเฉพาะในเรื่องความชุ่มชื้น ลดอาการอักเสบ และช่วยฟื้นฟูสภาพผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เชียบัตเตอร์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผิว ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง และดูสุขภาพดี

Shea Butter ทาหน้าได้ไหม?

เชียบัตเตอร์สามารถใช้ทาบนใบหน้าได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น และไม่อุดตันรูขุมขน จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวมัน โดยช่วยล็อกความชุ่มชื้นบนผิวโดยไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เชียบัตเตอร์ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และมีกรดไขมันที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้น [2]

เชียบัตเตอร์ทาปากได้ไหม?

เชียบัตเตอร์สามารถใช้ทาบนริมฝีปากได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น และบำรุงผิว ผลิตภัณฑ์เช่น Organic Pure Shea Butter จาก L’Occitane แนะนำให้ใช้ทาริมฝีปากเพื่อบำรุงและปกป้องจากความแห้งกร้าน

ดังนั้น การใช้เชียบัตเตอร์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์ ทาบนริมฝีปาก จึงเป็นวิธีที่ดีในการรักษาความชุ่มชื้น และป้องกันริมฝีปากแห้งแตก [3]

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง