สเปรย์กันแดด ควรฉีดตอนไหน แนะนำวิธีฉีดอย่างถูกต้อง

สเปรย์กันแดด

• เนื้อบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะ สเปรย์กันแดดถูกออกแบบมา ให้มีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิว ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ
• ใช้งานสะดวก ฉีดทับเมคอัพได้ ด้วยรูปแบบของสเปรย์ ทำให้สามารถฉีดพ่นลงบนผิวได้ โดยไม่ต้องใช้มือเกลี่ยมาก และสามารถฉีดเติมระหว่างวัน ทับเมคอัพได้
• กระจายตัวง่าย แต่ต้องฉีดให้ทั่ว แม้สเปรย์กันแดดจะช่วยให้ทาได้ง่ายขึ้น แต่ละอองสเปรย์ อาจไม่กระจายตัวทั่วถึง จึงจำเป็นต้องฉีดซ้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าผิวได้รับการปกป้องทั่ว
• ส่วนใหญ่มักไม่กันน้ำ ดีเท่าครีม แม้ว่าสเปรย์กันแดดบางรุ่น จะมีสูตรกันน้ำ แต่โดยทั่วไปมักไม่สามารถกันน้ำ หรือเหงื่อได้ดีเท่าครีมกันแดด เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน มากกว่ากิจกรรม ที่ต้องเผชิญน้ำหรือเหงื่อมาก
• หมดไว เพราะอาจกระจายไปในอากาศ การฉีดสเปรย์ทำให้มีละอองฟุ้งกระจาย ทำให้สูญเสียปริมาณผลิตภัณฑ์ไปในอากาศ มากกว่าการทาครีมโดยตรง ส่งผลให้หมดเร็วกว่าครีมกันแดด

ครีมกันแดด

• เนื้อเข้มข้น แต่ต้องเกลี่ยให้ทั่ว ครีมกันแดดมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่า จึงต้องใช้มือเกลี่ย ให้ทั่วบริเวณที่ต้องการปกป้อง แต่ก็ช่วยให้แน่ใจได้ว่าผิว ได้รับการเคลือบอย่างสม่ำเสมอ
• ปกป้องผิว ได้เต็มประสิทธิภาพ ด้วยความที่ครีมกันแดด สามารถควบคุมปริมาณการใช้ได้ดีกว่า ทำให้สามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างเต็มที่ และลดโอกาส ของการถูกแสงแดดทำร้าย
• กระจายตัวสม่ำเสมอ ควบคุมปริมาณได้ดี ครีมกันแดดสามารถทาลงบนผิวโดยตรง และควบคุมปริมาณให้เหมาะสมได้ง่าย ต่างจากสเปรย์ที่อาจกระจายไม่ทั่วถึง หรือมีปริมาณที่น้อยเกินไป
• มีสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง ครีมกันแดดมักมีสูตรกันน้ำ และกันเหงื่อ ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่นว่ายน้ำ วิ่ง หรือทำกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน
• ใช้ได้นานกว่า เพราะควบคุมปริมาณได้ การทาครีมกันแดดช่วย ให้สามารถใช้ปริมาณ ที่พอดีกับผิวได้ง่ายกว่า ทำให้ประหยัดกว่า และใช้งานได้นานกว่าสเปรย์กันแดด

ที่มา: หาคำตอบ สเปรย์กันแดดเหมาะสำหรับใช้ตอนไหน [1]

สรุป สเปรย์กันแดด ทางเลือกที่สะดวกและง่าย