สครับผิวหน้า ช่วยอะไร เผยเคล็ดลับดูแลผิวสวยใสอย่างมั่นใจ

Fiona
24 ม.ค. 25
16:58
11 views

สครับผิวหน้า ช่วยอะไร หนึ่งในข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้ เพราะการดูแลผิวหน้า เป็นหนึ่งในกิจวัตรที่สำคัญที่สุด ของการดูแลสุขภาพ และความงาม การดูแลผิวหน้าไม่ได้หมายถึงเพียงการล้างหน้า และการใช้ครีมบำรุงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสครับผิว

การสครับผิวเป็นวิธีหนึ่ง ในการขจัดเซลล์ผิว ที่เสื่อมสภาพออกไป เพื่อเผยผิวใหม่ที่เรียบเนียน และดูมีสุขภาพดี แต่ก่อนที่จะลงลึกถึงรายละเอียด ขอเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐาน เกี่ยวกับการสครับผิวหน้ากันก่อน

ผลิตภัณฑ์สครับ คืออะไร?

สครับ (Scrub) คือผลิตภัณฑ์ หรือกระบวนการ ที่ใช้ในการขจัดเซลล์ผิว ที่เสื่อมสภาพ หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ออกจากผิวหนัง เพื่อช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน สว่างใส และสุขภาพดีขึ้น กระบวนการนี้ มักเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การผลัดเซลล์ผิว (Exfoliation)

องค์ประกอบใน Scrub

เม็ดสครับ: ส่วนผสมหลัก ที่ช่วยในการขัด เช่นเม็ดน้ำตาล เกลือบดละเอียด หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เช่นข้าวโอ๊ต
สารบำรุงผิว: ส่วนผสมที่ช่วยบำรุง และคืนความชุ่มชื้น เช่นน้ำมันมะพร้าว ว่านหางจระเข้หรือ Shea Butter
ส่วนผสมทำความสะอาด: บางสูตรอาจมีสารช่วยทำความสะอาด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก ออกจากรูขุมขน

ประโยชน์ สครับผิวหน้า ช่วยอะไร

สครับผิวหน้าช่วยอะไร สครับผิวหน้าช่วยขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ที่สะสมอยู่บนผิวหน้า ซึ่งสามารถทำให้ผิวหมองคล้ำไม่สดใส การสครับช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ช่วยให้ผิวดูสว่าง และเรียบเนียนมากขึ้น
กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต การนวดวนเบาๆ ระหว่างการสครับ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่ง และสดใส
ลดการอุดตัน ของรูขุมขน สิ่งสกปรก และน้ำมันส่วนเกิน ที่สะสมอยู่ในรูขุมขน สามารถนำไปสู่การเกิดสิว การสครับช่วยทำความสะอาดล้ำลึก และลดความเสี่ยง ในการอุดตันของรูขุมขน
เพิ่มประสิทธิภาพ ของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เมื่อเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ถูกกำจัดออกไป ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น ทำให้การบำรุง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ การสครับช่วยลดจุดด่างดำ รอยแดง และรอยแผลเป็นจากสิว ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน และสม่ำเสมอมากขึ้น

ที่มา: “สครับหน้า” มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด [1]

การสครับผิว มีผลเสียหรือไม่?

การสครับผิวมีผลเสียได้ หากทำไม่ถูกวิธี หรือทำบ่อยเกินไป โดยอาจส่งผลต่อผิว ดังนี้

ระคายเคือง และผิวแห้ง: การสครับที่รุนแรง หรือบ่อยครั้งเกินไป อาจทำให้ชั้นปกป้องผิวเสียหาย ส่งผลให้ผิวแห้ง และระคายเคืองได้
ทำให้เกิดการอักเสบ: หากผิวบอบบาง หรือมีสิว การสครับอาจทำให้เกิดการอักเสบ และสิวลุกลามได้
ผิวบาง และเสี่ยงต่อแสงแดด: การสครับบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวบางลง และไวต่อรังสี UV ซึ่งเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดจุดด่างดำ หรือผิวเสียหาย จากแสงแดด
เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: หากมีแผลเล็กๆ บนผิว การสครับอาจทำให้เชื้อโรค เข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น

ดังนั้นควรสครับผิว ในความถี่ที่เหมาะสม (1-2 ครั้งต่อสัปดาห์) และเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิว เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสีย ที่อาจเกิดขึ้น [2]

การเลือกผลิตภัณฑ์สครับผิวหน้าที่เหมาะสม

ดูส่วนผสมที่อ่อนโยน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่นเม็ดสครับจากน้ำตาล เกลือ หรือข้าวโอ๊ต เพื่อลดการระคายเคือง
หลีกเลี่ยงเม็ดสครับ ที่หยาบเกินไป เม็ดสครับที่หยาบ อาจทำให้ผิวเกิดรอยขีดข่วน และสร้างความเสียหาย ให้กับชั้นผิวได้
เลือกตามสภาพผิว: ผิวแห้งเลือกสครับที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ เช่นน้ำมันมะพร้าว หรือเชียบัตเตอร์ ผิวมันเลือกสครับที่มีส่วนผสม ช่วยลดน้ำมันส่วนเกิน เช่นชาเขียว หรือถ่านไม้ไผ่ ผิวแพ้ง่ายเลือกผลิตภัณฑ์ ที่ไม่มีน้ำหอม และไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง และอาจใช้ร่วมกับ เจลล้างหน้า ผิวแพ้ง่าย

วิธีสครับผิวหน้าอย่างถูกต้อง

เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดหน้า ล้างหน้าเบาๆ ด้วยน้ำอุ่น และคลีนเซอร์ เพื่อเปิดรูขุมขน
ใช้สครับในปริมาณที่เหมาะสม บีบสครับ ในปริมาณเล็กน้อย ลงบนปลายนิ้ว
นวดวนเบาๆ ใช้ปลายนิ้วนวดวนเบาๆ เป็นวงกลม หลีกเลี่ยงการถูแรงเกินไป โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบาง อย่างรอบดวงตา
ล้างออกด้วยน้ำเย็น น้ำเย็นช่วยกระชับรูขุมขน และทำให้ผิวรู้สึกสดชื่น
ตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ หลังจากสครับ ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น

สรุป การสครับผิวหน้าช่วยปรับปรุงสุขภาพผิว

การสครับผิวหน้า เป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพผิว และเพิ่มความเปล่งปลั่งให้กับผิว อย่างไรก็ตาม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว และปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการระคายเคือง และรักษาความสมดุลของผิวที่ดี การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ และการใช้สครับอย่างเหมาะสม จะช่วยให้มีผิวหน้าที่เนียนนุ่ม สดใส และดูสุขภาพดีในระยะยาว

สครับผิวหน้าทุกวันดีไหม?

สครับผิวหน้าทุกวันไม่แนะนำ เนื่องจากอาจทำให้ผิวระคายเคือง และสูญเสียความชุ่มชื้นได้ การสครับควรทำในความถี่ที่เหมาะสม ตามสภาพผิว เช่น 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ สำหรับผิวธรรมดา หรือผิวแห้ง และ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์สำหรับผิวมัน เพื่อป้องกันการทำร้ายผิว และรักษาสมดุลของผิวให้สุขภาพดี [3]

ข้อควรระวังการสครับผิวหน้า

การสครับผิวหน้ามีข้อควรระวัง เช่นอย่าสครับบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง หรือสูญเสียความชุ่มชื้น เลืแกใช้เม็ดสครับที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการสครับแรง หรือขณะผิวมีปัญหา เช่นสิวอักเสบ หลังสครับควรใช้ครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิว และไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ ผลัดเซลล์ผิวอื่นพร้อมกัน เพื่อลดการระคายเคือง